您现在的位置是:稠人广座网 > 综合
รมว.ทส.หารือทูตศรีลังกาฯ ประสานความร่วมมือดูแล"พลายประตูผา
稠人广座网2025-11-24 00:08:47【综合】0人已围观
简介วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย telegram官网下载
รมวทสหารือทูตศรีลังกาฯประสานความร่วมมือดูแลquotพลายประตูผาtelegram官网下载
วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ นางเอทิริสิงเห อารัจจิลาเค ศรียานี วิชยันติ เอทิริสิงเห เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือที่เหมาะสมที่สุดกับช้าง 2 เชือก ได้แก่ "พลายประตูผา - พลายศรีณรงค์" ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมให้การต้อนรับ
การหารือครั้งนี้จัดขึ้นตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีฯ ดำเนินการและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางดูแลช้างทั้งสองเชือก เนื่องจากช้างทั้งสองมีอายุมากและเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูสวัสดิภาพอย่างเร่งด่วน
โดยขณะนี้ ช้างทั้ง 2 เชือก ได้แก่ พลายประตูผา อายุ 51 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2523 อาศัยที่วัดสุธุฮุมโปลลา เมืองแคนดี้ ส่วนพลายศรีณรงค์ อายุ 29 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2544 อาศัยอยุ่ที่วัด Kelaniya เมือง Rattanapura ช้างทั้ง 2 เชือก อยู่ห่างกันระยะทาง 105 กิโลเมตร
ช้างทั้งสองได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทูตสันถวไมตรีทางวัฒนธรรมและศาสนา เชื่อมโยงสายใยแห่งมิตรภาพระหว่างประชาชนไทยและศรีลังกามาอย่างยาวนาน ด้วยการอุทิศร่างกายรับใช้พระพุทธศาสนาด้วยความทุ่มเทและสง่างาม
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานการดำเนินงานอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์อันดี ระหว่างไทย-ศรีลังกา กว่า 70 ปี ความเคารพต่อประเพณีและวัฒนธรรม รวมทั้งความศรัทธาร่วมกันในพระพุทธศาสนาสวัสดิภาพของช้างที่มีอายุมากและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และความรู้สึกของประชาชนทั้ง 2 ปรเทศ ที่มีความผูกพันลึกซึ้งต่อช้างทั้ง 2 เชือก
"รัฐบาลไทยมีความประสงค์ที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับสู่ประเทศไทย เพื่อให้ได้กลับมาพักผ่อนและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในช่วงบั้นปลายชีวิต ณ ถิ่นกำเนิด หลังจากปฏิบัติภารกิจอันทรงเกียรติมาอย่างยาวนาน"
รองนายกรัฐมนตรีฯ แจ้งความประสงค์ในนามของรัฐบาลไทยที่จะเข้าเยี่ยมคารวะท่านอนุระ กุมาระ ทิสานายกะ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ณ กรุงโคลัมโบ ในอนาคตอันใกล้ เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับช้างไทย และส่งเสริมความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทยจะมอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ ประสานงานในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
รองนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ช้างถือเป็นสัตว์ที่มีความหมายพิเศษสำหรับทั้งสองประเทศ สำหรับไทยช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง สำหรับศรีลังกาช้างเป็นสัตว์มงคลในพระพุทธศาสนา สะท้อนถึงคุณค่าทางจิตใจ ศาสนา และวัฒนธรรมร่วมกัน
"ด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพ ความเคารพ และความเข้าใจอันลึกซึ้ง ฝ่ายไทยมีความมุ่งหวังอย่างยิ่งที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับบ้าน พร้อมทั้งยกระดับความร่วมมือระหว่างไทย-ศรีลังกาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความยินดีที่จะสนับสนุนการส่งเสริมบทบาทของเด็กและเยาวชนในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามข้อมติของศรีลังกาที่ร้องขอให้ไทยร่วมสนับสนุน ในการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 7 ที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคม 2568 ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป เนื่องจากสอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ระดับชาติของไทย ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเยาวชน ทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่ ก่อนตอบรับอย่างเป็นทางการ และจะประสานคณะผู้แทนถาวรไทยประจำโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เพื่อแจ้งยืนยันกับรัฐบาลศรีลังกาต่อไป
วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ นางเอทิริสิงเห อารัจจิลาเค ศรียานี วิชยันติ เอทิริสิงเห เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือที่เหมาะสมที่สุดกับช้าง 2 เชือก ได้แก่ "พลายประตูผา - พลายศรีณรงค์" ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมให้การต้อนรับ
การหารือครั้งนี้จัดขึ้นตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีฯ ดำเนินการและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางดูแลช้างทั้งสองเชือก เนื่องจากช้างทั้งสองมีอายุมากและเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูสวัสดิภาพอย่างเร่งด่วน
โดยขณะนี้ ช้างทั้ง 2 เชือก ได้แก่ พลายประตูผา อายุ 51 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2523 อาศัยที่วัดสุธุฮุมโปลลา เมืองแคนดี้ ส่วนพลายศรีณรงค์ อายุ 29 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2544 อาศัยอยุ่ที่วัด Kelaniya เมือง Rattanapura ช้างทั้ง 2 เชือก อยู่ห่างกันระยะทาง 105 กิโลเมตร
ช้างทั้งสองได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทูตสันถวไมตรีทางวัฒนธรรมและศาสนา เชื่อมโยงสายใยแห่งมิตรภาพระหว่างประชาชนไทยและศรีลังกามาอย่างยาวนาน ด้วยการอุทิศร่างกายรับใช้พระพุทธศาสนาด้วยความทุ่มเทและสง่างาม
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานการดำเนินงานอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์อันดี ระหว่างไทย-ศรีลังกา กว่า 70 ปี ความเคารพต่อประเพณีและวัฒนธรรม รวมทั้งความศรัทธาร่วมกันในพระพุทธศาสนาสวัสดิภาพของช้างที่มีอายุมากและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และความรู้สึกของประชาชนทั้ง 2 ปรเทศ ที่มีความผูกพันลึกซึ้งต่อช้างทั้ง 2 เชือก
"รัฐบาลไทยมีความประสงค์ที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับสู่ประเทศไทย เพื่อให้ได้กลับมาพักผ่อนและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในช่วงบั้นปลายชีวิต ณ ถิ่นกำเนิด หลังจากปฏิบัติภารกิจอันทรงเกียรติมาอย่างยาวนาน"
รองนายกรัฐมนตรีฯ แจ้งความประสงค์ในนามของรัฐบาลไทยที่จะเข้าเยี่ยมคารวะท่านอนุระ กุมาระ ทิสานายกะ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ณ กรุงโคลัมโบ ในอนาคตอันใกล้ เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับช้างไทย และส่งเสริมความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทยจะมอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ ประสานงานในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
รองนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ช้างถือเป็นสัตว์ที่มีความหมายพิเศษสำหรับทั้งสองประเทศ สำหรับไทยช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง สำหรับศรีลังกาช้างเป็นสัตว์มงคลในพระพุทธศาสนา สะท้อนถึงคุณค่าทางจิตใจ ศาสนา และวัฒนธรรมร่วมกัน
"ด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพ ความเคารพ และความเข้าใจอันลึกซึ้ง ฝ่ายไทยมีความมุ่งหวังอย่างยิ่งที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับบ้าน พร้อมทั้งยกระดับความร่วมมือระหว่างไทย-ศรีลังกาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความยินดีที่จะสนับสนุนการส่งเสริมบทบาทของเด็กและเยาวชนในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามข้อมติของศรีลังกาที่ร้องขอให้ไทยร่วมสนับสนุน ในการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 7 ที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคม 2568 ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป เนื่องจากสอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ระดับชาติของไทย ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเยาวชน ทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่ ก่อนตอบรับอย่างเป็นทางการ และจะประสานคณะผู้แทนถาวรไทยประจำโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เพื่อแจ้งยืนยันกับรัฐบาลศรีลังกาต่อไป
很赞哦!(5267)
相关文章
- 淘宝有直播么?淘宝直播入口在哪?
- 跟豪门传了十年绯闻,他却偏要“择一队终老”
- รมว.ทส.หารือทูตศรีลังกาฯ ประสานความร่วมมือดูแล"พลายประตูผา
- 全运会|田径综合:多名“00后”风雨中摘首金
- Miss Universe 2025: นางงามเม็กซิโกในดราม่า "วอล์คเอาท์" คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สคนล่าสุด
- กทม.หารือการใช้งาน Cell Broadcast แจ้งเตือน 9 ภัยหลัก
- 宿州市:国防教育进校园 点燃青春报国志
- 玫瑰圣女.手机 专注健康美容 塑造美丽人生
- 仓库年度总结怎么写(范文格式5篇)
- 多家银行提高购金门槛并提示风险




